Tuesday 29 April 2008

Fudge Brownies

นอกจากจะ bake-aholic แล้วก้อยก็ยังเป็น chocaholic ด้วยค่ะ คือเน้นเข้ม ๆ ขม ๆ เวลาทำขนมที่ต้องใช้ช็อกโกแลตนี่จะเน้นเปอร์เซ็นต์สูง ๆ ไว้ก่อน บราวนี่เป็นหนึ่งในขนมในดวงใจเลยค่ะ ทำง่ายกินอร่อย แล้วที่สำคัญเอาไว้หลอกล่อเด็ก ๆ ได้ด้วยนะคะ บราวนี่ที่ทำวันนี้ได้สูตรมาจากหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งได้มาจากงานหนังสือ ชื่อ Bakery in my heart vol.1 สูตรนี้จะได้เนื้อหนึบ ๆ นะคะ ถ้าใครชอบเนื้อเค้กอาจต้องผ่านไปก่อน แต่ถ้าชอบแบบก้อยก็ต้องเอาไปลองทำดูเลยค่ะ


Fudge Brownies
พิมพ์ขนาด 7 x 11 นิ้ว
หรือ 9 x 9 นิ้ว


ส่วนผสม

4 ฟอง ไข่ไก่เบอร์ 2
250 กรัม น้ำตาลทราย
1 ช้อนชา กลิ่นวานิลลา
250 กรัม Dark chocolate
100 กรัม เนยสดจืด
150 กรัม แป้งอเนกประสงค์
1 ช้อนชา เกลือป่น
1 ½ ช้อนชา ผงฟู
100 กรัม วอลนัทหรือพีแคน (สับแล้วอบให้หอม)
เล็กน้อย เนยจืดสำหรับทาพิมพ์


วิธีทำ
1. วอร์มเตาอบที่ 180 C แล้วเตรียมพิมพ์โดยการทำเนยให้ทั่วแล้วปูกระดาษรองอบ

2. ผสมไข่ไก่กับน้ำตาลและเกลือเข้าด้วยกันโดยใช้ตะกร้อมือหรือแบบไฟฟ้าก็ได้ค่ะ จากนั้นใส่กลิ่นวานิลลา

3. ละลายเนยจืดและดาร์กช็อกด้วยเทคนิค Bain Marie (Water Bath) จากนั้นพักไว้ให้พออุ่น ๆ แล้วจึงนำมาเทผสมกับไข่ พอเข้ากันดีแล้วพักไว้

4. ร่อนแป้ง และผงฟูเข้าด้วยกัน แล้วค่อยๆ แบ่งผสมให้เข้ากับส่วนของช็อกโกแลต ค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเร็วและเบามือ ทำประมาณ 3 รอบค่ะ ปิดท้ายด้วยการเติมถั่วลงไป คนให้เข้ากันเบา ๆ แล้วเทลงพิมพ์

5. นำเข้าอบประมาณ 25-30 นาที หรือจนสุก คือหมายถึงหน้ามันจะเริ่มแตก ๆ แล้วเอาไม้จิ้มฟันจิ้มแล้วมีเศษเค้กติดขึ้นมานิดหน่อย ก้อยใช้พิมพ์ 7 x 11 อบประมาณ 28 นาทีค่ะ

ปล. ในขั้นตอนละลายช็อกโกแลตกับเนยนี่จะละลายในไมโครเวฟก็ได้นะคะ แต่ก้อยชอบการทำ water bath มากกกว่า เป็นความชอบส่วนตัว ^ ^ คือรู้สึกว่าเนื้อช็อกโกแลตที่ได้มันเนียนกว่า เพราะเราได้คนให้มันค่อย ๆ ละลายเข้ากันอยู่ตลอดค่ะ

ขอปิดท้ายด้วยเชฟขนมตัวน้อย ๆ ค่ะ



Sunday 27 April 2008

ส่งการบ้าน Little Rhubarb Tarts พี่ก้อย pepsakoy

บางคนอาจจะแอบสงสัยว่าทำไมก้อยชอบใช้รูบาร์บทำขนมจัง คำตอบคือก้อยติดใจในความเปรี้ยวของมันค่ะ ผลไม้เปรี้ยว ๆ นี่เป็นของโปรดหมดค่ะ แอ๊ปเปิ้ลเขียว มะขาม มะม่วงดิบ ฯลฯ ปกติแล้วไม่ค่อยได้ทำพายซักเท่าไหร่ เพราะอากาศบ้านเราร้อน แล้วในครัวก็ไม่มีแอร์ แต่ด้วยความอยากกินมากก็เลยได้โอกาสตอนช่วงที่ฝนตกบ่อย ๆ ขำดีไหม๊คะ จะทำขนมทีต้องรอพายุฤดูร้อนเลยนะเนี่ย ^ ^ ต้นฉบับมาจาก little rhubarb tarts ของพี่ก้อย pepsakoy นะคะ


Little Rhubarb Tarts
ทำได้ 8 อันค่ะ ขนาดถ้วยมัฟฟินมาตรฐาน



ส่วนแรก Shortcrust pastry

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 220 g.
เกลือป่น 1/2 tsp.
เนยสดจืด เย็นจัด, หั่นเต๋าเล็ก ๆ 152 g.
น้ำเย็นจัด (โดยประมาณ) 5 tbs.

ปรับสูตรมาจาก พายข้าวโพดของคุณวรรณ A Little Catz แต่ที่มาของสูตรค่อนข้างยาวมากเริ่มจากไปเห็น Sweet Corn Pie Pots จากบล๊อกพี่แหม่ม tiara จากนั้นก็ตามไปดูพายข้าวโพดของพี่แพร chef_umim ค่ะ ก้อยทำดับเบิ้ลสูตร แล้วก็ปรับลดเกลือลงจากสูตรเดิมนะคะ วิธีทำนี่ก้อยใช้ Food Processor ค่ะ

1. ผสมแป้งกับเกลือให้เข้ากันแล้วเทลง ใน food processor ปั่นให้ส่วนผสมเข้ากัน แค่แป๊บเดียวค่ะ
2. ใส่เนยลงไปแล้วปั่นให้เข้ากัน ใช้ปุ่ม pulse นะคะ ปั่น ๆ หยุด ๆ ไม่ต้องนาน เอาแค่พอให้ได้ส่วนผสมเป็นเม็ดทรายร่วน ๆ คือไม่ให้เห็นเนยเป็นก้อนใหญ่ ๆ
3. จากนั้นก็เอาออกมาผสมมือ โดยเทลงอ่างผสมที่เอาไปแช่เย็นไว้ แล้วค่อย ๆ พรมน้ำเย็นใส่ทีละช้อน พรมให้ทั่ว ๆ นะคะ แป้งกับเนยจะได้ดูดซับน้ำได้ดี อาจไม่ต้องใช้น้ำถึง 5 ช้อนโต๊ะนะคะ
4. นวดให้เข้ากัน แล้วตบ ๆ ให้เป็นก้อน แบ่งเป็น 2 ก้อนเท่า ๆ กัน แล้วนำเข้าแช่เย็นประมาณ 30 นาที - 1 ชม.
วิธีที่ทำนี้ได้ไอเดียมาจากป้า Delia ค่ะ how to make shortcrust pastry

ส่วนผสมไส้
น้ำตาลทรายแดง 50 g .
ลูกเกดขาว+ลูกเกดดำ 100 g.
แป้งข้าวโพด 1/2 tbs.
นมจืด (ไว้ทาหน้าขนม) 1 tbs.
น้ำตาลทราย (ไว้โรยหน้าขนม) 1/2 tbs.

ส่วนของรูบาร์บ
รูบาร์บหั๋นเต๋าขนาด 2 cm. 350 g.
น้ำตาลทราย 80 g.
pure vanilla extract 1 tsp.
น้ำ 1 tbs.

วิธีทำ
1. วอร์มเตาอบที่ 180 C , ไม่ต้องทาเนยที่พิมพ์ค่ะ แป้งพายมีเนยมากอยู่แล้ว รับรองว่าไม่ติดแน่ ๆ
2. เริ่มต้นด้วยการทำให้รูบาร์บสุกก่อนโดยการผสมกับน้ำตาลและน้ำ แล้วนำไปอบประมาณ 25-30 นาที โดยให้เอาออกมาคน ๆ หลังอบไปแล้ว 15 นาที จากนั้นกรองเอาแต่เนื้อ
3. นำรูปบาร์บที่ได้มาผสมกับลูกเกด น้ำตาลทรายแดง และแป้งข้าวโพด คนให้เข้ากันดี แล้วพักไว้
4. นำแป้งพายที่พักไว้ออกมาคลึง ถ้ายังแข็งมาก ให้ทิ้งไว้แป๊บนึงค่ะ โดยคลึงให้ได้ความหนาประมาณ 0.5 cm. ตัดให้ได้ขนาดกว้างกว่าปากพิมพ์เล็กน้อย แล้วกรุลงพิมพ์ จากนั้นใส่ไส้ลงไปประมาณ ¾ ของพิมพ์ และปิดทับด้วยแป้งอีกแผ่น
5. กรีดด้นบนของแต่อันด้วยมีดคม ๆ แล้วทาด้วยนมและโรยน้ำตาล
6. นำเข้าอบประมาณ 35 นาที

ส่งการบ้าน Coffee Crumble Cupcake พี่ปุ๊ก dailydelicious

ด้วยความที่ชอบกินขนมที่มีส่วนผสมของกาแฟแล้วยิ่งมีหน้าครัมกรอบ ๆ นี่สู้ตายเลยค่ะ สูตรญี่ปุ่นนี่จะเล็ก ๆ อย่างสูตรนี้ได้คัพเค้กขนาดมาตรฐานแค่ 6 อันเอง แต่ก้อยก็ยังอุตส่าห์นึกสนุกทำให้มันจิ๋วลงไปอีก โดยการใช้พิมพ์มินิมัฟฟินมาอบ ได้มินิมัฟฟินจิ๋ว ๆ 12 อัน แล้วก็มินิมัฟฟินขนาดไม่เล็กมากอีก 4-5 ถ้วย ไม่ได้นับจำนวนเป๊ะๆ ไว้นะคะ ^ ^ เวลาที่ใช้อบก็ย่อลงตามไปด้วยค่ะ ถ้าขนาดปกติในหนังสือบอกอบ 30-35 นาที แต่นี่ก้อยอบแค่ 15 นาทีเองค่ะ



คราวนี้ขอไม่ลงสูตรและวิธีทำนะคะ ตามไปดูที่ต้นฉบับของพี่ปุ๊กได้ที่นี่ค่ะ Coffee Crumble Cupcake
ตอนอบเสร็จใหม่ ๆ นี่นุ่มมาก ๆ ค่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบเค้กเนยทิ่ทิ้งไว้ข้ามคืนมากกว่าค่ะ รู้สึกว่ารสชาติมันจะจัดขึ้นกว่าตอนอบเสร็จใหม่ ๆ เค้กนี้รสจะไม่เข้มข้นมากนะคะ ถ้าใครที่เป็นคอกาแฟก็อาจจะต้องเพิ่มปริมาณกาแฟแล้วก็ปรับน้ำตาลให้ได้รสที่ถูกปากมากขึ้นค่ะ

ปล.ดูความจิ๋วของเค้กเทียบกับมืออันใหญ่ยักษ์ของน้องชายก้อยสิคะ ^ ^


Wednesday 16 April 2008

Plum and Pistachio Cake

เค้กหวานอมเปรี้ยวนี้มาจาก หนังสือ 10 Best Cakes with Fresh Fruit สะสมตำราทำขนมของคุณครูปริสนา บุญสินสุข ไว้ทุกเล่มเลยค่ะ เล่มนี้เป็นเล่มล่าสุดไปได้มาจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ไม่เคยใช้ลูกพลัมทำขนมมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ ตัวเค้กเป็นเค้กเนยที่เพิ่มความแปลกใหม่ด้วยน้ำมะนาวและถั่วพิสตาชิโอค่ะ ก็เลยได้หลายรสมากค่ะ เหมาะกับเป็นขนมที่ไว้กินคลายร้อนมาก ๆ ส่วนตัวคิดว่าเนื้อขนมจะค่อนข้างแห้งนิดนึง เหมาะเป็นขนมน้ำชา หรือไม่ก็โปะไอศครีมวานิลลาซักลูกจะแจ่มมาก ^ ^


Plum and Pistachio Cake
พิมพ์กลมขนาด 8 นิ้ว
6 ลูก ลูกพลัม (ดำหรือแดงก็ได้ หนักประมาณ 500 กรัม) คว้านเม็ด ผ่าสี่
50 กรัม ถั่วพิสตาชิโอบดละเอียด
175 กรัม เนยสด รสจืด ทิ้งให้นิ่ม
140 กรัม น้ำตาล (สูตรเดิม 175 กรัมค่ะ)


¼ ช้อนชา เกลือ
3 ฟอง ไข่ (เบอร์ 0 หรือ 1)
175 กรัม แป้งอเนกประสงค์
1 ¼ ช้อนชา ผงฟู
2 ลูก มะนาวเขียว ขูดผิวและคั้นน้ำ (หรือมะนาวเลมอนใช้ลูกเดียว)
น้ำตาลไอซิ่ง สำหรับโรย (ก้อยไม่ได้โรยค่ะ)






วิธีทำ




1. วอร์มเตาอบไว้ที่ 180 C/พัดลม 160 C และเตรียมพิมพ์โดยการทาเนยและปูกระดาษรองอบไว้ที่ก้นพิมพ์และถ้าขยันก็กรุรอบพิมพ์ด้วยค่ะ (ก้อยขี้เกียจค่ะ)


2. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกัน


3. ตีเนยกับน้ำตาลทรายจนเป็นสีอ่อนและดูเบาฟู (รองโถผสมด้วยน้ำแข็งก็ดีนะคะ เนยจะได้ไม่ละลาย) ก้อยใช้ hand mixer ก็ตีความเร็วกลาง ๆ ค่ะ ประมาณเบอร์ 3


4. ใส่ไข่ทีละฟอง โดยตีให้เข้ากันดีก่อนที่จะใส่ฟองต่อไป จากนั้นใส่น้ำมะนาว แล้วตีให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้ใช้ความเร็วต่ำนะคะ ไม่งั้นกระเด็นแน่ ๆ


5. ค่อย ๆ ผสมแป้งที่ร่อนไว้ใส่พร้อมกับผิวมะนาว ตีให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ อย่านานนะคะ เดี๋ยวเค้กเหนียว


6. จากนั้นผสมพิสตาชิโอลงไป คราวนี้เปลี่ยนมาใช้พายยาง ค่อย ๆ คนให้เข้ากันอย่างเบามือค่ะ

7. เทแบทเทอร์ที่ได้ครึ่งนึงใส่พิมพ์ เกลี่ยให้เรียบ แล้วเรียงทับด้วยลูกพลัมครึ่งหนึ่ง แล้วเทแบทเทอร์ส่วนที่เหลือทับลงไป เรียงปิดทับด้วยลูกพลัมที่เหลือ


8. นำเข้าอบประมาณ 1 ชม. หรือจนสุก ก้อยก็อบประมาณเกือบ ๆ ชม.ค่ะ 55-60 นาที

Sunday 6 April 2008

Moist Chocolate Cupcakes

คัพเค้กอันนี้ดัดแปลงมาจาก Chocolate Walnut Squares จากบล๊อกของน้องแพร +~%Chocolate Republic%~+ ไม่ได้ปรับอะไรมากมายหรอกค่ะ แต่เปลี่ยนจากอบในถาดสี่เหลี่ยม 11 x 11 นิ้ว มาเป็นถ้วยคัพเค้ก จำไม่ได้แล้วค่ะว่าได้กี่ถ้วย คิดว่าประมาณ 18 นะคะ

Moist Chocolate Cupcakes

พิมพ์มัฟฟินขนาดมาตรฐาน และ ถ้วยกระดาษ ประมาณ 18 อัน



ส่วนผสมตัวเค้ก



เนย(เค็ม) 125 กรัม



dark chocolate 150 กรัม (ก้อยใช้แบบโกโก้แมส 50%ค่ะ)



น้ำตาล 380 กรัม (น้องแพรใส่ 400 ค่ะ สูตรเดิม 450)



pure vanilla extract 1 ช้อนชา



แป้งอเนกประสงค์ 275 กรัม



ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา



เกลือ 1/4 ช้อนชา (อันนี้เพิ่มลงไปเองค่ะ)



ผงโกโก้ 50 กรัม (แนะนำให้ใช้แบบ Dutch Processed ตรานางพยาบาลหรือ Van Houten ค่ะ)



มายองเนส 225 กรัม (ก้อยใช้แบบ low-fat กระปุกเล็กของไฮนซ์ค่ะ)



น้ำเปล่า 225 ml



ส่วนผสม Chocolate Glaze



dark chocolate 125 g (ก้อยใช้โกโก้แมส 70% ค่ะ ชอบกินขมๆ)



เนย(เค็ม) 40 g



walnut





วิธีทำ



1. วอร์มเตาอบที่ 170 C แล้วเรียงถ้วยกระดาษใส่พิมพ์ไว้เลยค่ะ



2. ละลายช็อกโกแลต เนย น้ำตาล น้ำ เข้าด้วยกันค่ะ จะใช้วิธี bain marie (double boil) หรือจะจับยัดเข้าไมโครเวฟก็ได้ค่ะ ก้อยใช้เวฟเอาค่ะ ง่ายดี คนให้เข้ากันดีแล้วพักไว้ค่ะ



3. ร่อนแป้ง ผงฟู ผงโกโก้ และเกลือรวมกันไว้ค่ะ



4. ทำหลุมตรงกลางส่วนผสมแป้ง แล้วใส่มายองเนสและช็อกโกแลตละลายลงไปค่ะ โดยแบ่งใส่ช็อกฯแค่ 1/3 ส่วนก่อนค่ะ คนให้พอเข้ากัน แล้วทะยอยใส่อีก 2 ส่วนที่เหลือ จะได้ส่วนผสมหนืด ๆ



5. เทใส่พิมพ์แล้วนำเข้าอบประมาณ 20-25 นาทีค่ะ ถ้าเป็นพิมพ์ 11 x 11 นิ้ว จะใช้เวลาประมาณ 40 นาทีนะคะ



6. พอเค้กสุกก็เอามาแต่งด้วย chocolate glaze ค่ะ ทำง่าย ๆ โดยการละลายช็อกโกแลตที่เหลือกับเนย แล้วเอามาปาด ๆ บนหน้าเค้ก จบด้วยการแปะ walnut ให้สวยงามค่ะ เจ้าคัพเค้กนี้รสชาติเข้มข้นถูกใจมากค่ะ ก้อยชอบกินอุ่น ๆ เสิร์ฟกับวิปครีมดอกโต ๆ หรือไม่ก็ไอติมวานิลลาก็น่าจะเข้ากันดีค่ะ

Rhubarb Crumb Cake

rhubarb เป็นผักชนิดหนึ่งค่ะ คือไม่เคยคิดว่านอกจากแครอทแล้วจะสามารถนำเอาผักอย่างอื่นมาทำขนมได้ เคยอ่านเจอจากหนังสือหรือดูตามเวบของเมืองนอกเท่านั้นว่าเจ้ารูห์บาร์บนี่เป็นสิ่งที่นิยมเอามาทำ summer desserts แต่ก็ไม่เคยลองซะที จนปีที่แล้วเห็นว่ามีขายที่ร้านโครงการหลวงก็เลยได้ลองทำดู แม้สีจะไม่แดงแจ๊ดเหมือนของนอก แต่ความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดนี้รับประกันได้ค่ะ นี่เป็นการทำครั้งที่ 2 ค่ะ ครั้งแรกปีที่แล้ว อาจจะใช้เวลานานซักนิดนะคะสำหรับการ re-run ^ ^ สูตรขนมแสนอร่อยนี้มาจากบล๊อกของพี่ก้อย pepsakoy ค่ะ


Rhubarb Crumb Cake
พิมพ์สี่เหลี่ยม 9 x 13 นิ้ว




ส่วนผสม

เนย 100 กรัม (แบ่งใช้เป็น 15 + 85 กรัม)
น้ำตาลทรายสีรำ 100 กรัม
mixed nuts 100 กรัม (สับหยาบค่ะ ก้อยใช้ pecan, almond, walnut, cashew nut, pitachio)
ซินนามอน 1 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 220 กรัม (สูตรเดิมใช้ 250 กรัม)
ไข่ไก่ # 2 1 ฟอง
แป้งอเนกประสงค์ 225 กรัม
เบ้กกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
plain yogurt 2 ถ้วย (ถ้วยบรรจุ) สูตรเดิมใช้ sour cream ค่ะ
รูบาร์บ 300 กรัม (ล้างและลอกใยแข็ง ๆ ออก แล้วหั่นเต๋า 1 x 1 cm.ค่ะ)

วิธีทำ

1. วอร์มเตาที่ 180 C และเตรียมพิมพ์โดยทาเนยให้ทั่วพิมพ์ ปูกระดาษไข และทาเนยทับอีกรอบ

2. ละลายเนยส่วนที่แบ่งไว้ 15 กรัม แล้วคนให้เข้ากันกับน้ำตาลทรายสีรำ ถั่วต่าง ๆ และซินนามอน พักไว้

3. ร่อนแป้งกับเบ้กกิ้งโซดาและเกลือก แล้วพักไว้

4.ตีผสมเนยนุ่มที่เหลือ 185 กรัมกับน้ำตาลทรายแดงและไข่ไก่ จนเข้ากันดีและดูนุ่มฟู จากนั้นผสมส่วนของแป้งลงไปโดยใส่สลับกับ plain yogurt ให้เริ่มที่แป้งและจบที่แป้ง ใช้พายตะล่อมอย่างเบามือ หรือใช้เครื่องตีด้วยความเร็วต่ำค่ะ

5. ผสมรูห์บาร์บที่หั่นไว้ลงไปอย่างเบามือ จากนั้นเทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วโรยหน้าด้วยส่วนของ topping ที่ทำเตรียมไว้ตอนแรก

6. นำเข้าอบประมาณ 30-35 นาที ก้อยอบประมาณ 30 นาทีค่ะ

No.1 Banana Bread on Family Chart

ตอนแรกที่เข้าไปอ่านเรื่อง amish starter ที่บล๊อกของพี่แก้ว หรือ แม่บั๊ดดี้ ก็เพราะเคยได้ดูหนังเรื่อง Witness (1985) หนังเก่ามาก ตั้งแต่ Harrison Ford ยังหนุ่มมาก ^ ^ เรื่องราวของชุมชนชาวอามิชนี่มีอะไรน่าสนใจหลายอย่างค่ะ พวกเค้าดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางความเจริญของโลกโดยปฏิเสธที่จะเดินตามเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือมิตรภาพที่เค้าหยิบยื่นให้กัน เช่นเดียวกับที่พี่แก้วได้ส่งหัวเชื้อ amish starter มาให้และทำให้ก้อยได้มีโอกาสทดลองขนมอร่อย ๆ แล้วตอนนี้ Banana Amish Friendship Bread ก็ได้กลายเป็นเค้กกล้วยหอมอันดับหนึ่งในใจของคนทั้งบ้านไปแล้ว เพราะความหอมนุ่มชุ่มฉ่ำ ไม่ได้กลิ่นเบ้กกิ้งโซดาให้รำคาญใจด้วยค่ะ


Banana Amish Friendship Bread
พิมพ์โลฟขนาด 8 x 4 นิ้ว จำนวน 2 อัน




ส่วนผสม


ส่วนที่ 1 (ของเหลว)



starter 1 ถ้วย



กล้วยหอมบด 2 ผลครึ่ง (สูตรเดิมใช้ 1 ถ้วยค่ะ แต่ที่บ้านชอบกล้วยเยอะ ๆ)



ไข่ไก่ #2 2 ฟอง



เนย (เค็ม) 3/4 ถ้วย หรือ 170 กรัม



น้ำตาลทราย 1 ถ้วย (เพิ่มลดได้ตามชอบค่ะ)



ส่วนที่ 2 (ของแห้ง)



แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย



เบ้กกิ้งโซดา 1 ช้อนชา



ผงฟู 2 ช้อนชา



เกลือ 1/4 ช้อนชา



วานิลลา 1 ช้อนชา (สูตรเดิมใช้ซินนามอนค่ะ)



วิธีทำ



1.วอร์มเตาอบที่ 175 C และเตรียมพิมพ์โดยทาเนยบาง ๆ ให้ทั่วพิมพ์แล้วปูกระดาษไข จากนั้นทาเนยทับอีกรอบ



2. นำส่วนผสมของแห้งเทใส่ชามผสมแล้วใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันดี



3. ตีเนยกับน้ำตาลด้วนความเร็วปานกลางจนนุ่มฟู แล้วใส่กล้วยและวานิลลา ตีให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ



4. ใส่ starter ตีให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ



5. ใส่ไข่ไก่ทีละใบ โดยตีให้เข้ากันก่อนใส่ฟองต่อไป ใช้ความเร็วต่ำ



6. แบ่งใส่แป้งเป็น 3 ครั้ง ตีให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ หรืออาจใช้พายตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือก็ได้ค่ะ



7. เทส่วนผสมที่ได้ลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ จะใส่ได้ประมาณครึ่งพิมพ์



8. นำเข้าอบประมาณ 40-50 นาที ก้อยอบ 45 นาทีค่ะ





Ham Cheese Ring Bread

Ham Cheese Ring

พิมพ์กลมขนาด 7 นิ้ว


ได้สูตรมาจากบล๊อกของพี่สาวที่น่ารัก พี่ปุ๊ก dailydelicious แม้ไม่ใช่ครั้งแรกของการนวดขนมปังด้วยมือ แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ทำขนมปังเองแล้วมีความรู้สึกอยากทำอีกต่อ ๆ ไปค่ะ สูตรญี่ปุ่นนี่เล็ก ๆ ใช้แป้งไม่เยอะ นวดแค่ 10 นาทีก็ได้แล้วค่ะ ขออนุญาติลงสูตรไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ

ส่วนผสม
200 g แป้งขนมปัง

1 tsp Instant dried yeast

2 tbsp น้ำตาล

½ tsp เกลือ

30 g เนยจืด (นิ่ม)

140 ml นมสด

3 tbsp Mayonnaise

5 ชิ้นแฮม ( แล้วแต่ชอบเลยค่ะ)

30 gCheddar Cheese (grated) หรือตามชอบนะคะ เป็นชีสแผ่นก็ได้

40 gGruyère cheese (grated) หรือตามชอบค่ะ ชอบยืด ๆ ก็มอสซาเรลลาค่ะ


วิธีทำ

1.ใส่แป้งและยีสต์ลงในชาม คนให้เข้ากัน ใส่น้ำตาล เกลือ แล้วคนอีกรอบ

2.เทนมลงในชาม ใช้ช้อนอันใหญ่คนให้เข้ากัน แล้วใส้เนยลงไป นวดจนเนยละลายไปในเนื้อโด แล้วนำขนมปังขึ้นจาก ชามวางลงบนโต๊ะที่ โรยแป้งไว้บางๆ นวดประมาณ 10นาทีจน เนียนและยืดหยุ่นดี
3.นำโดใส่ลงในชามที่ทาเนยไว้ทิ้งไว้จนขึ้น 2 เท่า ประมาณ 1 ชั่วโมง เตรียมพิมพ์โดยปูกระดาษรองอบไว้ในพิมพ์ พักไว้

4.เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180°C นำขนมปังออกจาก ชามแล้วกด (หรือรีดก็ได้) ให้เป็นแผ่น 4เหลี่ยมขนาด 25x25 cm ทามายองเนสให้ทั่ว โรยด้วย Cheddar Cheese แล้ววางแฮมที่ด้านบน แล้วม้วนให้เป็นแท่ง กดให้แน่น แล้วตัดเป็น 6 ชิ้น วางลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้โดยวางด้านที่ตัดไว้ด้านล่าง โรยด้วย Gruyère cheeseแล้วพักให้ขึ้นเกือบ 2เท่าประมาณ 30 นาที

5.นำเข้าอบประมาณ 25นาที หรือจนขนมปังสีเหลืองสวย และชีสเป็นสีน้ำตาลเล็กน้อย