Monday, 22 December 2008

Chicken Farm Bakers' Project #5:Let's Celebrate Finger Food Party: Bacon and Cheese Muffin


คราวนี้ขอทำมัฟฟินแบบคาวบ้างนะคะ เวลาเรียกแบบนี้แล้วฟังดูจั๊กกะจี้หูมาก ๆ ค่ะ แต่ถ้าเรียกแบบฝรั่งว่า Savory muffin แล้วทำไมมันดูดีจังเลยเนี่ย 555 Bacon and Cheese Muffin นี้เป็นตัวปิดท้าย Finger Food Party ค่ะ ก้อยก็งี้แหล่ะค่ะ เห็นเพื่อน ๆ ทำทั้งของหวานของคาว แต่ละคนทำกัน 2-3 อย่าง เลยขอเอาซะหน่อย

สูตรก็ไปหยิบมาจากคนใกล้ ๆ ตัวค่ะ คุณพี่ปุ๊กอร่อยรายวัน dailydelicious นั่นเองค่ะ พี่สาวก้อยทำขนมทุกวันค่ะ มีขนมอร่อย ๆ มาให้น้องได้เลือกทำ(ตาม)เยอะมาก ประมาณว่าเปิดบล๊อกพี่ปุ๊กทีไร baking wishlist ของก้อยก็ยาวขึ้นๆ ทุกทีเลย ต้นฉบับทำเป็น Ham and Cheese Muffin ก้อยขอปรับนิดหน่อยเป็นใช้ Bacon และ Light Cheddar Cheese แล้วก็อบใส่ในพิมพ์มินิมัฟฟิน เพื่อให้เหมาะกับ Theme ของเรานะคะ อิอิ ใช้นิ้วกินได้ค่ะ ใครนิ้วใหญ่ก็หยิบได้ทีละหลาย ๆ อันจ้า

ข้อสังเกตที่ได้จากการทำครั้งนี้คือเนื้อขนมของก้อยออกมาค่อนข้างแห้งค่ะ คิดว่าน่าจะมาจากการใช้ Light Cheddar Cheese แล้วก็อบนานไปหน่อย แต่รสชาติดีมาก ๆ เลยค่ะ

Bacon and Cheese Muffin

24 ชิ้นขนาดมินิมัฟฟิน

ส่วนผสม

แป้งเค้ก

300 กรัม

ผงฟู

12 กรัม

ไข่ไก่ เบอร์ 2

2 ฟอง

น้ำตาลทราย

60 กรัม

เนยจืดละลาย

100 กรัม

นมสดจืด

140 กรัม

เกลือ

2 กรัม

เบคอน

6 แผ่น (ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ)

Cheddar Cheese

100 กรัม

Parsley

พอประมาณ (สับละเอียด)

วิธีทำ

1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C ใช้พิมพ์มินิมัฟฟินขนาด 24 หลุมได้พอดีค่ะ

2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟูและเกลือเข้าด้วยกัน พักไว้

3. ตีไข่ไก่และน้ำตาลจนข้นฟูขาว

4. ตะล่อมนมสดลงไป ตามด้วยเนยละลาย ตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากัน ทำเบามือแต่เร็วนะคะ

5. ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดได้แก่ แป้ง เบคอน ชีส และพาร์สลีย์ ลงไป คนผสมเบา ๆ ให้พอเข้ากัน อย่านานค่ะ ไม่งั้นจะได้มัฟฟินที่เหนียว

6. ตักส่วนผสมที่ได้หยอดใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้

7. นำเข้าอบประมาณ 18-20 นาที หรือจนกระทั่งสุก โดยเราจะได้กลิ่นหอม ๆ ลอยมาเตะจมูกและลองเอาไม้จิ้มฟันจิ้มดูแล้วไม่มีเศษแบทเทอร์แฉะ ๆ ติดไม้ออกมาค่ะ

Chicken Farm Bakers' Project #5:Let's Celebrate Finger Food Party: Bacon and Cheese Muffin

Chicken Farm Bakers' Project #5: Let's Celebrate Finger Food Party: Raspberry Butter Cookies


ขนมอย่างที่ 2 ใน Finger Food Party ของก้อยคือ Raspberry Butter Cookie ค่ะ เป็นคุ๊กกี้เนยที่กรอบนอกนุ่มใน หอมเนยมาก ๆ ค่ะ แต่กว่าจะทำสำเร็จก็เล่นเอาเหนื่อย เพราะว่าทำรอบแรกนี่ลืมใส่ไข่ค่ะ ทำรอบสองก็รู้สึกว่ายังทำครัมได้ไม่สวยพอ เลยต้องลองเอาครัมที่ได้มาปั่นใหม่ รวม ๆ แล้วก็ทำไป 3 รอบได้ จากวัตถุดิบสองชุดนะคะ เห็นไหม๊คะว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ขนมอร่อยก็รอเราอยู่ที่นั่นหล่ะค่ะ

ตอนที่อ่านเจอสูตรคุ๊กกี้นี้จากนิตยสาร Health & Cuisine ฉบับที่ 94 ประจำเดือน พฤศจิกายน 2551 ก็ปิ๊งทันทีเลยค่ะ คือโดยส่วนตัวชอบอะไรก็ตามที่เป็นรูปดาวมาก ๆ ค่ะ แล้วไอเดียหยอดครัมใส่พิมพ์รูปดาวเล็ก ๆ น่ารักขนาดนี้ใครจะไปอดใจไม่ก๊อบได้หล่ะคะเนี่ย ต้องขอบคุณเจ้าของสูตรคือคุณเมย์-กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ ผู้เขียนหนังสือ Maymade Volume I, II, และ III และยังเป็นเจ้าของร้านขนม After You ที่ J-Avenue ทองหล่อ 15 อีกด้วยค่ะ

มีเคล็ดลับในการหยอดแยมมาฝากนิดนึงค่ะ ปกติแล้วเราจะแช่กระปุกแยมไว้ในตู้เย็นกันใช่ไหม๊คะ เวลาที่จะเอามาใช้ ก็ให้เพื่อน ๆ ตักแบ่งใส่ถ้วยแก้วที่สามารถเอาเข้าไมโครเวฟได้ แล้วก็อุ่นให้แยมเหลวด้วยไฟอ่อน ๆ ค่ะ ซัก 10-20 วินาทีก็พอ ห้ามใช้ไฟแรงนะคะ แล้วก็อย่านาน ไม่งั้นได้แยมเดือดพล่านกระเด็นเลอะไม่โครเวฟได้ค่ะ ง่าย ๆ แค่นี้ก็จะได้แยมเหลวพอดีที่จะหยอดหน้าขนมได้แล้วค่ะ

Raspberry Butter Cookie

ส่วนผสม

เนยสดชนิดเค็มหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ

1 ถ้วยตวง

น้ำตาลทรายขาว

¾ ถ้วยตวง (ตักออก 1 ช้อนโต๊ะ)

ผงฟู

1 ช้อนชา

ไข่ไก่ เบอร์ 2

1 ฟอง

แป้งสาลีอเนกประสงค์

2 1/2 ถ้วยตวง

แยมราสป์บอรี่

ประมาณ 1 ถ้วยตวง

อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C

วิธีทำ

1. ใส่ส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นแยมราสป์เบอรี่ลงในเครื่องผสมอาหาร กดปุ่ม pulse ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งส่วนผสมเข้ากันเป็นก้อนเล็ก ๆ พักไว้ในตู้เย็น 1 ชั่วโมง

ทำตอนแรกได้ครัมเล็กมาก ๆ ค่ะ

ลองเอามาปั่นใหม่ก็ได้ครัมก้อนใหญ่ขึ้น แต่แป้งอาจจะติดกันบ้างนะคะ ต้องอาศัยมือบิเล็กน้อย

2. นำออกจากตู้เย็น ตักใส่พิมพ์คุ๊กกี้ ก้อยใช้พิมพ์วุ้นอันเล็ก ๆ ค่ะ รองพิมพ์ด้วยถ้วยฟอล์ย หยอดหน้าคุ๊กกี้ด้วยแยมราสป์เบอรี่ตรงกลาง ไม่ต้องเยอะนะคะ เพราะเวลาอบแล้วแยมจะร้อนมาก ๆ ไหลติดพิมพ์ค่ะ ทำให้แกะขนมยาก และล้างก็ยากด้วยค่ะ

3. นำเข้าอบประมาณ 20-25 นาที หรือจนสุก ครัมมีสีเหลืองสวย นำออกจากเตาพักไว้ให้เย็นสนิท เก็บใส่กล่องปิดสนิทได้นานประมาณ 1 สัปดาห์



Chicken Farm Bakers' Project #5: Let's Celebrate Finger Food Party: Raspberry Butter Cookies

Friday, 19 December 2008

Chicken Farm Bakers' Project #5: Let's Celebrate Finger Food Party: Mint Chocolate Chip & Cherry Sauce Panna Cotta


ขอสารภาพก่อนเลยว่าตอนที่ได้รับโจทย์จากน้องบอลเนี่ยอึ้งมาก ๆ เพราะ no idea สุด ๆ ไม่รู้ว่าจะทำไรดี แต่เราก็ไม่วายมีคนช่วยคิดแทนค่ะ ก็บรรดาพี่ ๆ น้อง ๆ สมาชิกฟาร์มเนี่ยหล่ะนะ นำเหนอให้เราทำเค้กกล้วยหอมสารพัดแบบเลย ต้องขอบพระคุณอย่างสูงนะยะ :P เห็นหน้าเราเป็นเจ้าแม่เค้กกล้วยหอมไปซะแล้ว คิดไปคิดมาก็มาลงตัวที่ขนมหวานแบบอิตาเลียน หวาน ๆ หอม ๆ นุ่มลิ้นค่ะ ใกล้คริสต์มาสทั้งทีก็ขอฉลองด้วยขนมสีเขียวแดง แถมช็อกโกแลตของชอบของคนทำให้อีกอย่างนึงค่ะ Mint Chocolate Chip & Cherry Sauce Panna Cotta ่ะ

โดยส่วนตัวแล้วก้อยชอบกิน Panna Cotta แบบที่ไม่แข็งมากค่ะ นุ่ม ๆ อยู่ตัวนิดหน่อยกำลังดี หัวใจสำคัญก็อยู่ที่ปริมาณเจลาตินที่เราใส่ค่ะ ใส่มากก็ดึ๋งมาก ใส่น้อยก็จะไม่อยู่ตัว เอาเป็นว่าชอบแบบไหนก็ใส่แบบนั้นดีกว่าเนอะ

ตอนแรกไม่คิดหรอกค่ะว่าจะทำขนมตัวนี้ บังเอิญมาก ๆ ที่โฮสต์ทำเจลลี่ไงคะ ก้อยก็เลยขอก๊อบไอเดียซะหน่อย บอกแล้วว่าเรา no idea จริง ๆ สูตรนี้เคยลองทำครั้งนึงแล้วแต่ไม่ประทับใจเท่าไหร่ เพราะว่าตอนนั้นหาน้ำเชื่อมกลิ่นมินท์แบบหอม ๆ ซ่า ๆ ไม่ได้ จนกระทั่งได้ไป grocery shopping กะเจ้าบัวและตัวโต น้องสาวเราก็เลยแนะนำของดีให้พี่สาวค่ะ

พอตัดสินใจได้ว่าจะทำเจ้านี่ก็ไปค้นหาแก้วช็อตน่ารัก ๆ ในกรุใหญ่เลยค่ะ หาได้ไม่กี่อันเอง แล้วจะทำไงดีหล่ะเนี่ย 555 ไม่ยากค่ะ ก็ไปถอยมาใหม่ สิเนอะ ไม่เห็นจะยากเลย เรื่องซื้อแก้วเนี่ย งานถนัดค่ะ ไปเลือกได้มาอยากละนิดละหน่อยค่ะั ระหว่างซื้อก็เม้าท์กะเพื่อนอินไปด้วย เพื่อนเราก็ไม่ห้ามปรามกันเลยค่ะ ยุใหญ่เลย ช่างเป็นเพื่อนที่น่ารักจริง ๆ นะตัวเอง


สูตรนี้ปรับมาจากนิตยสาร @Kitchen ฉบับที่ 14/02 ประจำเดือน ตุลาคม 2007 ค่ะ เจ้าของสูตรคือ คุณยุวพร เตชะสุริยะมณี เจ้าของร้านเบเกอรี่บรรยากาศน่ารัก ๆ ที่ชื่อ Melting Moments ก้อยใช้ Hot Fudge Sauce และ Cherry Filling สำเร็จรูปค่ะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจจะทำซอสเองก็ไม่ยากนะคะ ตัวฟัดจ์เนี่ยก็แค่ละลาย semi-sweet chocolate กับ whipping cream สัดส่วน 1:1 ค่ะ


ส่วนเชอรี่ซอสเนี่ยก็ใช้เชอรี่ในน้ำเชื่อมค่ะ กรองเอาลูกเชอรี่ออก แล้วนำน้ำเชื่อมขึ้นตั้งไฟ แล้วละลายแป้งข้าวโพดหรือแป้งกวนไส้ 1ช้อนโต๊ะกับน้ำเปล่านิดหน่อย พอน้ำเชื่อมเดือดนิด ๆ ก็เทน้ำแป้งลงไป คนเร็ว ๆ จนข้นใส ชิมรสดูถ้าหวานเกินไปก็เติมน้ำมะนาวนิดหน่อยค่ะ


ส่วนผสม

Whipping cream

200 ml

นมสดแบบ whole milk

50 ml

น้ำตาลทราย

25 กรัม

เจลาตินแบบผง

1 ช้อนชา

น้ำเชื่อมกลิ่น pepper mint

2 1/4 ช้อนชา

กลิ่น pepper mint

1 ช้อนชา


ส่วนผสมสำหรับแต่งหน้า

Chocolate chip

Hot Fudge Sauce สำเร็จรูป

Cherry Filling สำเร็จรูป


วิธีทำ

1. ผสม whipping cream 200 ml. กับ นมสด 50 ml. เข้าด้วยกัน


2. ทำการ bloom เจลาติน โดยแบ่งส่วนผสมครีมออกมาประมาณ ¼ ถ้วยตวง หรือ 50 ml. แล้วค่อย ๆ โรยเจลาตินผงลงไปบนครีมให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ขั้นตอนนี้ส่วนผสมครีมต้องเย็นนะคะ

3. นำส่วนผสมครีมที่เหลือไปต้มกับน้ำตาลทรายจนเดือดเล็กน้อย ยกลงจากเตาแล้วใส่เจลาตินที่ทำการ bloom ไว้ลงไป แล้วคนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นลง


4. ใส่น้ำเชื่อมและกลิ่น pepper mint ลงไป คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ขั้นตอนนี้ต้องทำในขณะที่ครีมเย็นลงแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นระเหยจากความร้อนค่ะ

5. เทใส่ภาชนะที่ต้องการ แล้วนำไปแช่เย็น ประมาณ 30 นาทีหือช่องแข่ง 10-15 นาที ให้ขนมเซ็ตตัวค่ะ


6. ตกแต่งด้วย Hot Fudge Sauce และ Chocolate Chip หรือ Cherry Filling

Chicken Farm Bakers' Project #5: Let's Celebrate Finger Food Party: Mint Chocolate Chip & Cherry Sauce Panna Cotta

Tuesday, 18 November 2008

Chicken Farm Bakers' Project #4: Christmas Cookies: Hershey’s “Perfectly Chocolate” Chocolate Chip Cookies

เวลาเดือนนึงนี่ผ่านไปเร็วมาก ๆ เลยนะคะ แต่ละเดือนก้อยก็ต้องนั่งลุ้นระทึกกับโจทย์ของ Chicken Farm คือไม่ได้มีอะไรที่น่ากลัวหรอกค่ะ แต่เวลาที่ต้องทำอะไรแบบมีกำหนดเวลา ก้อยมักจะบังเอิญไม่ว่างทู๊กที ดูอย่างเดือนที่แล้วสิคะ ตัวเองเป็น host แต่โพสต์คนสุดท้าย กลายเป็นเค้กกล้วยหอม "บ๊วย" ไปซะนี่

คราวนี้พี่ตา ผ้าไหมไทย เป็น host ค่ะ พี่ตาฟิตมาก ๆ ให้โจทย์ล่วงหน้า ให้น้อง ๆ ได้เตรียมตัวเตรียมใจ โจทย์เป็นคุ๊กกี้ที่สื่อถึงคริสต์มาสและให้ทำ packaging สำหรับแจกด้วย ด้วยความที่สมาชิกที่บ้าน (ลูกค้าหลักค่ะ) ไม่ค่อยชอบกินขนมที่ใส่ spice มากนัก ก้อยก็เลยอดลองทำสูตรที่พี่ตาให้ไว้ สูตรที่เลือกมาทำนี่เป็นสูตรที่มีความหลังอันน่าประทับใจค่ะ เป็นคุ๊กกี้สูตรแรกในชีวิตที่ทำเองทั้งหมด อย่าถามเลยนะคะว่าเมื่อไหร่ มันผ่านมานานมาก ๆ แล้ว ^ ^ แต่รับรองได้เลยว่าทำง่ายและอร่อยมากเลยค่ะ



Hershey’s “Perfectly Chocolate” Chocolate Chip Cookies

ทำได้ประมาณ 30 ชิ้น



ส่วนผสม

160 กรัม

แป้งอเนกประสงค์์

15 กรัม

ผงโกโก้ (แบบ Natural เช่น Hershey’s)*

½ ช้อนชา

เบ้กกิ้งโซดา

¼ ช้อนชา

เกลือ

113 กรัม

เนยสดจืด

90 กรัม

น้ำตาลทรายป่น

70 กรัม

น้ำตาลทรายแดง

½ ช้อนชา

วานิลลา

1

ไข่ไก่ (เบอร์ 1)

1 ถ้วยตวง

ช็อกโกแลตชิป

½ ถ้วยตวง

วอลนัท (อบให้หอมแล้วสับหยาบ)

คุ๊กกี้สูตรนี้มีส่วนผสมของเบกกิ้งโซดา จึงจำเป็นต้องใช้ผงโกโก้แบบ natural อย่างเช่น Hershey’s นะคะ

วิธีทำ
1.วอร์มเตาที่อุณหภูมิ 190 C ใช้ไฟบนล่าง และวางถาดไว้ที่ตะแกรงชั้นกลางค่ะ
2.คนผสมแป้ง ผงโกโก้ เบกกิ้งโซดา และเกลือเข้าด้วยกัน พักไว้
จากนั้นตีเนยสดให้อ่อนตัวเล็กน้อย ใช้ความเร็วต่ำก่อน แล้วจึงเพิ่มเป็นปานกลาง ใช้เวลาไม่นานค่ะ ประมาณ 2-3 นาที

3. พอเนยนุ่มแล้วใส่น้ำตาลทรายป่นและน้ำตาลทรายแดงลงไป ตีให้ได้ส่วนผสมฟูเป็นครีม ใช้ความเร็วปานกลางค่ะ ขั้นตอนนี้พยายามอย่าให้เนยละลายนะคะ ถ้าครัวบ้านใครร้อนก็ให้เอาน้ำผสมน้ำแข็งรองที่ก้นชามผสมค่ะ ตอนทำนี่ก้อยไม่ได้จับเวลาค่ะ ใช้ดู ๆ เอา แต่ไม่นานค่ะ ไม่เกิน 3-4 นาที


4.ใส่วานิลลาและไข่ไก่ลงไป ตีให้เข้ากันดี


5.แบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน และทะยอยผสมลงไป ใช้ความเร็วต่ำ นับ 1-10 ก็พอค่ะ แค่พอเข้ากัน แล้วจึงใส่ส่วนที่ 2 และ 3 อย่าผสมนาน เพราะจะได้คุ๊กกี้ที่เนื้อเหนียวแน่นมาก ๆ ^ ^


6. นำช็อกโกแลตชิปและถั่วที่เตรียมไว้ผสมลงไปในแบทเทอร์ที่ได้ คนเบา ๆ ให้กระจายทั่ว ๆ แต่ขอย้ำว่าอย่าคนนานจ้า

7. ส่วนผสมก่อนอบควรจะได้แบบนี้นะคะ มีเทคนิคนิดหน่อย คือเอาส่วนผสมไปแช่เย็นก่อนอบค่ะ ก้อยแช่ประมาณ 10 นาที


8.ใช้ scoop ไอติมอันเล็กสุดเป็นตัวช่วยในการหยอดค่ะ ก่อนตักก็ให้สเปรย์ด้วยน้ำมันนิดนึงนะคะ มันจะช่วยให้คุ๊กกี้โดว์ที่เหนียวหนึบไม่ติดกับ scoop มากนัก คือยังไงมันก็ติดค่ะ แต่น้อยลง 555


9.หน้าตาก่อนอบและหลังอบค่ะ

ที่มาของสูตรค่ะ :




Hershey's Best-Loved Recipes (Favorite Brand Name Recipes)

Special Thanks to พี่ปุ๊ก dailydelicious ค่ะ: ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ สำหรับทุก ๆ อย่าง You've saved my life!

Thursday, 30 October 2008

Blueberry Coffee Cake Muffins

คอฟฟี่เค้กก็คือขนมที่กินแกล้มกับกาแฟ หรือ ถ้าใครไม่กินกาแฟก็สามารถเปลี่ยนเป็นชา หรือไม่ก็น้ำผลไม้ได้ค่ะ ไม่ผิดกฎแต่อย่างใด เนื้อขนมแบบนี้จะออกมาค่อนข้างแห้งนะคะ ต้องมีเครื่องดื่มกลั้วคอนิดหน่อย พี่สาวก้อยชอบกินบลูเบอรี่มัฟฟินมาก ๆ ค่ะ เป็นขนมสุดโปรดของเธอเลยหล่ะ พอดีเค้าขอให้ทำให้กิน คิด ๆ ดูแล้วก็เลือกทำสูตรของ Ina Garten ค่ะ ก้อยรู้จักเค้าครั้งแรกจากบล๊อกของพี่แพท งาขาว ค่ะ ตอนนี้ลองทำสโกนของเค้าดู ออกมารสชาติดีมาก ๆ ประมาณ love at first bite เลยค่ะ ตอนนี้ Ina ก็เลยกลายเป็นหนึ่งในเชฟในดวงใจค่ะ

มีการปรับส่วนผสมนิดหน่อยนะคะ ก้อยลดน้ำตาลลง แล้วก็เปลี่ยนจาก sour cream เป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติแทนค่ะ เนื้อขนมอาจจะไม่หอมมันเท่าต้นฉบับนะคะ แต่ก็รู้สึกว่ากินแล้วสบายพุงกว่ากันค่ะ

ฺBlueberry Coffee Cake Muffins
16 muffins



ส่วนผสม

เนยสดจืด

170 กรัม

น้ำตาลทราย

240 กรัม

ไขไก่ #1 หรือ 0

3 ฟอง

Pure vanilla extract

1 ½ ช้อนชา

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

1 ถ้วยตวง

นมสด

¼ ถ้วยตวง

แป้งอเนกประสงค์

355 กรัม

ผงฟู

2 ช้อนชา

เบกกิ้งโซดา

½ ช้อนชา

เกลือป่น

½ ช้อนชา

บลูเบอรี่สด

250 กรัม

วิธีทำ

1. วอร์มเตาอบที่อุณภูมิ 180 C และเตรียมถ้วยกระดาษใส่ไว้ในพิมพ์มัฟฟิน สูตรนี้ได้ 16 ชิ้นค่ะ

2. ตีเนยให้อ่อนตัวโดยเริ่มที่ความเร็วต่ำก่อน แล้วค่อยเพิ่มเป็นปานกลาง พอเนยนุ่มแล้วก็ใส่น้ำตาลทรายลงไปตีให้พอเข้ากันด้วยความเร็วต่ำ จากนั้นเพิ่มเป็นความเร็วปานกลาง ตีจนได้ส่วนผสมฟูขาว ใช้เวลาประมาณ 5 นาที


3. ทะยอยใส่ไข่ทีละฟอง ตีด้วยความเร็วต่ำให้ส่วนผสมเข้ากันดีก่อนใส่ฟองต่อไป ตามด้วย vanilla, โยเกิร์ต และนมสด ส่วนผสมที่ได้อาจจะดูไม่ค่อยเข้ากัน ให้เพิ่มความเร็วขึ้นเป็นปานกลางและตีต่อไปจนส่วนผสมเนียนขึ้น ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที





4. ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดาและ เกลือเข้าด้วยกันและค่อย ๆ ผสมลงไปในส่วนผสมเนยข้างบน ใช้ความเร็วต่ำ ให้แบ่งใส่ 3 ครั้งก็ได้ค่ะ



5. ตะล่อมบลูเบอรี่ที่คลุกบางๆ ด้วยไอซิ่งลงไป คนเบา ๆ พอให้กระจายทั่ว ตักใส่พิมพ์และนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 C 10 นาที จากนั้นหมุนถาดอบ และอบต่อด้วยไฟ 180 c อีกประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าจะสุกค่ะ เอาไม่จิ้มฟันจิ้มดู ไม่มีส่วนผสมติดไม้ขึ้นมาก็ใช้ได้ค่ะ



อบเสร็จแล้วได้ขนมหน้าตาน่ากินแบบนี้ค่ะ

Monday, 20 October 2008

October 2008, Chicken Farm Bakers’Project #3: Let’s go banana

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่าไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องกินบ๊วยในเดือนที่ตัวเองเป็นโฮสต์ค่ะอย่าเพิ่งเบื่อกับเค้กกล้วยหอมกันนะคะ สูตรนี้ฉายไปแล้วหลายรอบ แต่เพื่อน ๆ ก็มีวิธีนำเสนอกันหลากหลายแตกต่างกันออกไป ก้อยทำเต็มสูตรค่ะ แล้วก็แบ่งส่วนผสมที่ได้มาอบเป็นเค้กกลมได้ 1 ก้อน และคัพเค้กเล็ก ๆ อีกค่ะ จำไม่ได้ว่ากี่อัน แฮะ ๆ ใช้พิมพ์ brioche อันเล็ก ๆค่ะ

ขอโชว์แบบเต็ม ๆ ก้อนก่อนนะคะ ใช้พิมพ์ 7 นิ้วค่ะ

แบบตัดเป็นชิ้นแล้วค่ะสังเกตว่าเค้กเนื้อแน่นเชียวด้วยความขี้เกียจของก้อยเองค่ะ ไม่ได้ปั่่นกล้วยกับส่วนของเหลวจนเนียน ไว้ต้องมีแก้มือค่ะ

ส่วนแบบนี้ตามหนังสือCakeloveเค้าเรียกว่า CrunchyFeetค่ะก็เป็นเอาพิมพ์briocheมาอบแทนพิมพ์มัฟฟินค่ะพิมพ์ที่ก้อยมีมันอันเล็กไปหน่อยเลยได้หลายอันเลยค่ะ


Mr.Banana Legs

Cake

ส่วนผสม

Dry


แป้งอเนกประสงค์

280 กรัม (10 oz)

แป้งมันฝรั่ง

1 tbs.

น้ำตาลทรายเม็ดใหญ่

1 tbs.

เกลือ

½ tsp.

baking soda

¼ tsp.

nutmeg ขูด

1/8 tsp.

Liquid


กล้วยหอมสุกมาก ๆ

3-4 ลูก

half-half

¾ cup

rum

1 tbs.

vanilla extract

1 ½ tsp.

Creaming


เนยสด

170 กรัม (6 oz.)

น้ำตาลทรายป่นละเอียด

300 กรัม (21 oz)

ไขไก่ #1

4

ไข่แดง จากไข่ไก่ #1

3

** สามารถทำเป็น alcohol-free version ได้โดยแทนที่ rum และ vanilla extract ได้ด้วย นมสด 2 ช้อนโต๊ะ + vanilla bean ขูดจาก vanilla 1 ฝัก ค่ะ

วิธีทำ

1. อุ่นเตาที่อุณภูมิ 350F หรือ 180 C

2.ร่อนแป้งลงบนชามที่วางบนตาชั่งโดยตรง จากนั้นตวงส่วนผสมแห้งอื่นๆลงในชามผสมอีกใบ แล้วเทแป้งที่ร่อนไว้ลงไปจากนั้นคนผสมให้เข้ากันโดยใช้ตะกร้อมือ ประมาณ10วินาทีผสมส่วนของของเหลวเข้าด้วยกันจะใช้เครื่องปั่นหรือจะคนผสมด้วยส้อมก็ได้ค่ะเอาให้เนียนๆ



3.ใส่เนยและน้ำตาลลงในชามผสมและตีให้ขึ้นฟูขาว ใช้ความเร็วต่ำสุดประมาณ 2-3 นาที หรือแล้วแต่เครื่องมือของแต่ละคนนะคะ

4.ตีส่วนผสมด้วยความเร็วต่ำต่อไปแล้วทะยอยใส่ไข่ไก่และไข่แดงทีละฟอง โดยที่ให้ไข่ไก่แต่ละฟองผสมเข้ากันอย่างดีก่อนใส่ฟองต่อไป ควรหยุดเครื่องเพื่อปาดอ่างเป็นระยะ ๆ

5.แบ่งส่วนผสมแป้งและของเหลวออกเป็น 3-5ส่วนค่อยๆผสมลงไปในส่วนผสมเนยที่ได้โดยให้เริ่มที่แป้งและจบที่แป้ง ไม่ต้องผสมให้เนียนก่อนใส่ส่วนผสมที่เหลือขั้นตอนนี้ไม่ควรเกิน60วินาทีค่ะ

6.ปาดอ่างเอาส่วนผสมที่อยู่ข้างๆและที่จมก้นผสมเข้ากันกับส่วนที่เนียนแล้ว จากนั้นตีส่วนผสมด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 15-20 วินาที

7.เทแบทเทอร์ลงพิมพ์สามารถใช้พิมพ์กลม 9 นิ้ว 2 พิมพ์, พิมพ์มัฟฟิน, หรือพิมพ์ปล่องขนาด 12 ถ้วย หรือแล้วแต่ชอบค่ะ

8.นำเข้าอบจนสุก เช็คสุกโดยเอาไม้จิ้มดูแล้วไม่มีเศษเค้กเปียก ๆ ติดออกมาค่ะ

พิมพ์กลม 9 นิ้ว 26-28 นาที

พิมพ์ปล่อง 12 ถ้วย 45 นาที

พิมพ์มัฟฟิน 20-25 นาที

* * ก้อยอบพิมพ์กลม 7 นิ้ว 2 พิมพ์ค่ะ โดยแบ่งน้ำหนักแบทเทอร์ใส่พิมพ์ละประมาณ 410 กรัมค่ะ ใช้เวลาอบไปตั้ง 45 นาทีแหน่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไปใส่ cake strip ที่พิมพ์รึเปล่า เนื้อเค้กที่ได้ไม่เหนียวนะคะ ค่อนข้างแน่นแต่ว่านิ่มมากค่ะ

* * เนื้อเค้กที่ได้ค่อนข้างแน่นและก็ยังมองเห็นเนื้อกล้วยอยู่บ้างนะคะ ตามที่พี่ตาได้ช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับเนื่อเค้ก ก้อยก็เลยคิดว่าการที่ก้อยไม่ได้ปั่นกล้วยกับของเหลวอื่น ๆ ให้เนียนน่าจะมีผลค่ะ เพราะทิ้งเค้กไว้ 1 คืนแล้วหน้าแฉะเชียว


Italian Meringue Buttercream

สูตรนี้ได้ครีมประมาณ 4-5 ถ้วยตวงนะคะ

ส่วนผสม

ไข่ขาว

150 กรัม

น้ำตาล

280 กรัม

น้ำเปล่า

¼ ถ้วยตวง

เนยสด (เค็ม) ตัดเป็นก้อนสี่แหลี่ยมเล็ก ๆ ทิ้งให้นิ่ม

450 กรัม

1.ทำน้ำเชื่อมโดยการใส่น้ำตาล 240 กรัมและน้ำ ¼ ถ้วยตวงลงในหม้อ ใส่ candy thermometer ลงไปด้วยค่ะ อาจจะปิดฝาหม้อไว้ให้เผยอ ๆ นิดนึงนะคะ จะช่วยไม่ให้มีเกล็ดน้ำตาลขึ้นด้านข้างหม้อค่ะ

2.เริ่มตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงจนตั้งยอดแข็ง แล้วจึงทะยอยใส้น้ำตาลทรายที่เหลืออีก 40 กรัมลงไป

3.พอน้ำเชื่อมเดือดพล่าน ๆ และมีอุณหภูมิ 245F ก็ค่อย ๆ เทลงในเมอแรงจ์ช้า ๆ โดยที่ยังคงตีด้วยความเร็วสูงค่ะ ประมาณ 1-2 นาที แล้วลดเหลือความเร็วกลาง ตีต่อไปจนเมอแรงจ์เย็นลง ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที หรืออาจจะนานกว่านั้น เพราะอากาศบ้านเราร้อนค่ะ อาจจะใช้ตัวช่วยแบบก้อยก็ได้นะคะ



4.พอเมอแรงจ์เย็นลงแล้วก็เริ่มใส่เนยสดลงไปทีละก้อนสองก้อนจนหมด ตีด้วยความเร็วสูงประมาณ 1-2 นาทีหรือจนได้บัตเตอร์ครีมฟูขาว พอได้แล้วก้อยเปลี่ยนจากหัวตีตะกร้อมาใช้หัวตีใบไม้แทนค่ะ ตีด้วยความเร็วปานกลางจนได้ครีมที่เนียนและฟูขาวค่ะ

**แบ่งครีมมาครึ่งนึงประมาณ 2 ถ้วย แล้วผสม rum ลงไป 1 ½ ช้อนโต๊ะ จะได้ Rum Buttercream ค่ะ


Chocolate Ganache

ดาร์กช็อกโกแลต (60%)

340 กรัม

Whipping cream

1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

ใส่ช็อกโกแลตลงในชามทนความร้อน จากนั้นอุ่นครีมให้เดือดนิด ๆ แล้วเทใส่ช็อกโกแลต ทิ้งไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วจึงคนให้เข้ากันจนเนียน พักไว้ 5-10 นาทีก่อนนำไปใช้


Assemble layered cake

จับเค้กที่สไลด์แล้วมาปาดระหว่างชั้นด้วย ganache, บัตเตอร์ครีม และ วางกล้วยหอมที่หั่นครึ่งตามยาวทับลงไป วางประกบด้วยเค้กชั้นที่เหลือ จากนั้นปาดเค้กทั้งก้อนด้วยบัตเตอร์ครีม ก็จะได้เค้กหน้าตาประหลาด ๆ มา1 ก้อนค่า

ที่มาของสูตร: Cakelove: How to Bake Cakes from Scratch by Warren Brown



ผลงานขนมกล้วยของเพื่อน ๆ ค่ะ

Always together : Banana & Berry By น้องบัว Tiny Bakery

Upside - down Banana Ring Cake With Caramel Sauce By น้องบอล bb_bon

Banana CupCake with Chocolate Hezelnuts Topping (Nutella) & Ganache By พี่ตา ผ้าไหมไทย

Macaron au mocha avec caramel de banane: Mocha Macaron with Caramel Banana filling By พี่ปุ๊ก Dailydelicious

IyadA's Tokyo Banana Roll By น้องจิ๊บ Iyada

Butterfly Banana Cupcake by พี่เกด Pastel pied

Let’s be together by พี่อุ้ม Vanillaorchid

Special Thanks:

พี่ปุ๊ก dailydelicious ขอบคุณมาก ๆ ค่ะที่อดทนฟังน้องบ่นๆๆๆ และบ่นในที่สุดน้องก็อัพบล๊อกก่อน deadline แล้วนะคะ

พี่เกด Pastel pied ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องการย่อ-จัดการกับรูปภาพค่ะ

เพื่อน ๆ ฟาร์มไก่ค่ะ ขอบคุณที่ยอมให้ก้อยกินบ๊วยนะจ๊ะ รักนะ จุ๊บ จุ๊บ

และสุดท้ายขอให้ทุกคนมีความสุขกับการทำขนมนะคะ